ประวัติศาสตร์ใหม่ของวงการเทควันโดไทย: โค้ชเช คว้าเหรียญทองโอลิมปิกครบ 7 เหรียญ

ในวันที่ 13 สิงหาคม 2567 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระบรมราชโองการ ประกาศเรื่องการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี 2567 โดยมีนายชัชชัย เช หรือ "โค้ชเช" หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย อยู่ในรายชื่อผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชฯ หลังจากที่พาทีมเทควันโดไทยคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2024 เป็นเหรียญที่ 7 ในประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาเทควันโดไทย

ก้าวสู่ความสำเร็จอย่างไม่หยุดยั้ง

ปลุกปั้นนักกีฬาเทควันโดไทยสู่ความสำเร็จ

นายชัชชัย เช หรือ "โค้ชเช" เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนานักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยให้ประสบความสำเร็จในเวทีโอลิมปิก โดยเริ่มตั้งแต่โอลิมปิก 2004 จนถึงปัจจุบัน โค้ชเชได้ปลุกปั้นนักกีฬาเทควันโดไทยคว้าเหรียญโอลิมปิกรวมกันถึง 7 เหรียญ แบ่งเป็น 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง ซึ่งถือเป็นผลงานที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง

ความสำเร็จที่ต่อเนื่องของนักกีฬาเทควันโดไทย

ภายใต้การคุมทีมของโค้ชเช นักกีฬาเทควันโดไทยสามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากการคว้าเหรียญทองแดงในโอลิมปิก 2016 จากนั้นก็คว้าเหรียญทองในโอลิมปิก 2020 และล่าสุดในโอลิมปิก 2024 ก็ได้เหรียญทองอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน และยังเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่ได้เหรียญโอลิมปิก 3 สมัยติดต่อกัน

ความภาคภูมิใจของวงการกีฬาเทควันโดไทย

ความสำเร็จของนักกีฬาเทควันโดไทยภายใต้การคุมทีมของโค้ชเช ถือเป็นความภาคภูมิใจของวงการกีฬาเทควันโดไทยเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศแล้ว ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นใหม่ที่กำลังก้าวเข้าสู่วงการกีฬาเทควันโดอีกด้วย ซึ่งจะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับวงการกีฬาเทควันโดไทยในระยะยาว

ส้ม ดวงอักษร ใจดี เผชิญความกดดันแต่ไม่ท้อ มุ่งมั่นสู่เป้าหมายใหม่หลังพลาดเหรียญโอลิมปิก 2024

ส้ม ดวงอักษร ใจดี นักกีฬายกน้ำหนักสาวไทย ได้เปิดใจถึงความรู้สึกหลังจากไม่สามารถคว้าเหรียญโอลิมปิก 2024 ได้ ท่ามกลางความกดดันที่เพิ่มขึ้นเมื่อเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ได้เหรียญกลับมาแล้ว แต่เธอก็ยังมุ่งมั่นที่จะก้าวไปข้างหน้า โดยวางแผนที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาโทเพื่อเป็นคุณครูในอนาคต

ส้ม ดวงอักษร ใจดี พร้อมก้าวต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ

ความรู้สึกหลังพลาดเหรียญโอลิมปิก 2024

ส้ม ดวงอักษร ใจดี เปิดเผยว่า แม้ว่าเธอจะไม่สามารถคว้าเหรียญโอลิมปิกได้ในครั้งนี้ แต่เธอก็พอใจกับผลการแข่งขันในระดับเวทีโอลิมปิก เพราะการแข่งขันในระดับนี้ถือว่ายากและเข้มข้นมาก ซึ่งเธอต้องเจอกับนักกีฬาชั้นนำของโลก แม้ว่าผลการแข่งขันจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่เธอก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีในการแข่งขันในเวทีระดับโลก

ความกดดันที่เพิ่มขึ้นเมื่อเพื่อนร่วมทีมได้เหรียญ

ส้ม ดวงอักษร ใจดี กล่าวว่า เมื่อเธอเป็นคนสุดท้ายที่ลงแข่งขัน และเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ได้เหรียญกลับมาแล้ว ก็ทำให้เธอรู้สึกกดดันอยู่บ้าง แต่เธอก็พยายามปล่อยวางความรู้สึกนั้น เพราะเธอเข้าใจว่าการแข่งขันในระดับนี้ย่อมมีความยากลำบากและความกดดันเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น เธอจึงไม่ได้วางแผนการแข่งขันในครั้งต่อไปไว้ แต่จะเน้นการพักผ่อนเป็นหลัก

แผนการศึกษาต่อในระดับปริญญาโท

ส้ม ดวงอักษร ใจดี เปิดเผยว่า เมื่อกลับมาถึงเมืองไทย เธอวางแผนที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่ โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นคุณครูในอนาคต เนื่องจากเธอเห็นว่าการเรียนในสาขานี้จะตรงกับความถนัดและความสนใจของเธอมากที่สุด ซึ่งเธอเชื่อว่าการศึกษาต่อในระดับสูงจะช่วยเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ให้เธอมีความพร้อมในการเป็นคุณครูที่ดีต่อไป

ความมุ่งมั่นสู่เป้าหมายใหม่

แม้ว่าส้ม ดวงอักษร ใจดี จะไม่สามารถคว้าเหรียญโอลิมปิก 2024 ได้ในครั้งนี้ แต่เธอก็ไม่ท้อถอย และยังคงมุ่งมั่นที่จะก้าวไปข้างหน้า โดยการศึกษาต่อในระดับปริญญาโทเพื่อเป็นคุณครูในอนาคต ซึ่งเธอเชื่อว่าการศึกษาต่อจะช่วยเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ให้เธอมีความพร้อมในการเป็นคุณครูที่ดี และสามารถส่งต่อความรู้และแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นต่อไป