คว้าโควตาครบทุกชนิดกีฬา ตัวแทนทีมชาติไทยเตรียมศึกพาราลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024

ทัพนักกีฬาคนพิการของไทยกำลังอยู่ในช่วงการเตรียมความพร้อมอย่างเข้มข้น เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญในการลงแข่งขันศึกพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ณ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งทีมชาติไทยคว้าโควตาครบทุกชนิดกีฬาที่มีการแข่งขันในการแข่งขันครั้งนี้

พาราลิมปิกทีมชาติไทยจำนวน 79 คน พร้อมสร้างสีสันในศึกปารีส 2024

ทัพจอมเตะปรากฏตัวที่ศูนย์เก็บตัวเฉียบขาด พร้อมล่าเหรียญทอง

ทีมเทควันโดคนพิการทีมชาติไทยสามารถคว้าโควตาเข้าร่วมแข่งขันในศึกปารีส 2024 ทั้งสิ้น 4 คน ในคลาส K-44 ซึ่งประกอบไปด้วยนักกีฬาชาย 2 คน และนักกีฬาหญิง 2 คน โดยนักกีฬาชายได้แก่ ธันวา แก่นคำ และธนพันธุ์ โสตถิเศรษฐ์ ส่วนนักกีฬาหญิงได้แก่ ขวัญสุดา พวงกิจจา และจิราพร วงศ์สุวรรณ ทีมงานมั่นใจว่านักกีฬาทุกคนจะสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และมีโอกาสคว้าเหรียญทองมาครองให้กับประเทศชาติได้อย่างแน่นอนการเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศฝรั่งเศสนั้นมีบรรยากาศที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น โดยนายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ได้เดินทางไปให้กำลังใจและเยี่ยมชมการฝึกซ้อมของนักกีฬา ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจและกำลังใจให้กับทีมได้เป็นอย่างดี นับเป็นการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ของทัพนักกีฬาก่อนการแข่งขันรอบสุดท้าย

คู่ยกเหล็กคนพิการไทย ล่าโควตาสู่ปารีส 2024 อย่างเข้มข้น

นอกจากทีมเทควันโดแล้ว ยังมีนักยกเหล็กไทยอีกสองรายที่กำลังฝึกซ้อมอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเตรียมความพร้อมลุยศึกพาราลิมปิก ประกอบด้วย "แบม" กมลพรรณ กระราชเพชร และ "เอ๋" อรวรรณ บุตรโพธิ์ ทั้งสองคนเพิ่งเดินทางไปฝึกซ้อมที่ประเทศฝรั่งเศส และได้เริ่มต้นการฝึกซ้อมวันแรกด้วยความเข้มข้น ภายใต้การดูแลของโค้ชระดับโลก โดย "แบม" มีการปรับตัวที่ดีหลังจากการคว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขันที่ฮ่องกง และสามารถยกน้ำหนักได้สูงถึง 107 กก. ในการแข่งขันล่าสุด ส่งผลให้เธอทำการจัดอันดับโลกขึ้นมาเป็นอันดับ 4 ขณะที่ "เอ๋" นักยกเหล็กคนพิการวัย 39 ปี ที่กำลังจะลงแข่งขันในพาราลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 5 ก็พร้อมสู้อย่างเต็มที่ แม้ว่าร่างกายจะยังไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ความมุ่งมั่นและความตั้งใจของเธอจะทำให้เธอสามารถสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมได้

ทีมพาราสตรอง พร้อมระเบิดฟอร์มการแข่งขันในศึกปารีส 2024

ในส่วนของทีม "วันเดอร์วูแมน" คือนักยกเหล็กหญิงคนพิการของไทย ก็ได้เริ่มการฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นแล้วเช่นกัน โดยในวันแรกของการฝึกซ้อมจะเน้นไปที่การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และการยกเหล็กตามโปรแกรม เพื่อสร้างความฟิตก่อนการแข่งขัน เนื่องจากการแข่งขันยกเหล็กเป็นกีฬาที่ต้องเอาใจใส่ในหลายมิติ ทั้งเรื่องของเวลาการพักผ่อน อาหารการกิน และสภาพจิตใจ ซึ่งโค้ชทีมได้วางแผนการฝึกซ้อมอย่างละเอียด เพื่อให้นักกีฬาสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันครั้งนี้

เป้าหมายผู้จัดการกองทุนสมัครใหม่

สำหรับกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) นั้น ได้มีการเปิดรับสมัครบุคคลเข้ายึดตำแหน่งผู้จัดการกองทุนฯ คนใหม่ในระหว่างวันที่ 5-24 กรกฎาคม 2567 ซึ่งมีผู้สนใจสมัครทั้งสิ้น 11 คน และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีผู้ผ่านคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนดจำนวน 7 คน โดยได้มีการประกาศรายชื่อออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เปิดรับสมัครผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาฯ คนใหม่

### ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครเข้ารับตำแหน่งคณะอนุกรรมการคัดเลือกผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) ของ กกท. ได้เปิดรับสมัครบุคคลภายนอกเพื่อเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการกองทุนฯ ในระยะเวลาดังกล่าว โดยมีผู้สนใจสมัครมาทั้งหมด 11 คน ทั้งนี้หลังจากการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พบว่ามี 7 คน ที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติที่กำหนด### ผู้ผ่านคุณสมบัติทั้ง 7 คนผู้ที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติในการสมัครรับตำแหน่งผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) มีดังนี้1. นางสาวมยุรี วรรณสกุลเจริญ2. นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม (รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย กกท.)3. นายคุณากร เพชรคง4. นายธนพล สุขเวสโก5. นางสาวศิริณี กันทา6. เรือตรีธนกฤษฎ์ เอกโยคยะ7. นางสาวสุปราณี คุปตาสา (ผู้จัดการกองทุนฯ คนก่อนหน้านี้)### การเข้ารับการทดสอบและสัมภาษณ์ทั้ง 7 คนที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติจะต้องเข้ารับการทดสอบภาษาอังกฤษเพื่อวัดความสามารถในการสื่อสาร โดยจะมีการจัดสอบในวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ณ สถาบันการต่างประเทศเทวะวงศ์วโรปการ หลังจากนั้นจะได้เข้ารับการสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติงานในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 7 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา กกท. หัวหมาก### ตำแหน่งผู้จัดการกองทุนฯ มีความสำคัญต่อวงการกีฬาไทยการรับสมัครผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) ในครั้งนี้ถือเป็นภารกิจสำคัญของ กกท. ในการขับเคลื่อนการพัฒนาวงการกีฬาไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยผู้ที่จะได้รับการคัดเลือกเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้จัดการกองทุนฯ จะมีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการกองทุนและส่งเสริมการพัฒนากีฬาอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งล้วนแต่มีความสำคัญต่อการยกระดับการกีฬาไทยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น