XE
Triton 2024 về Việt Nam sẽ có động cơ mới, thêm sức đấu Ranger và Hilux
2024-08-17

Sự Lột Xác Ấn Tượng của Mitsubishi Triton 2024

Với sự ra mắt của mẫu xe bán tải Mitsubishi Triton 2024 sắp tới, đây hứa hẹn sẽ là một bước tiến mới trong phân khúc xe bán tải. Những thông tin mới nhất từ phía đại lý đã hé lộ về các phiên bản, động cơ cũng như các tính năng công nghệ đáng chú ý của mẫu xe này.

Chiếc Bán Tải Được Chờ Đợi Nhất Năm 2024

Những Phiên Bản Đa Dạng

Theo các thông tin từ các đại lý, Mitsubishi Triton 2024 sẽ được phân phối với 3 phiên bản chính: GLX 2WD AT, Premium 2WD AT và Athlete 4WD AT. Trong đó, bản Athlete sẽ là phiên bản cao cấp nhất, được trang bị động cơ diesel tăng áp kép, dung tích 2.4L hoàn toàn mới. Cỗ máy này sẽ tạo ra công suất tối đa 204 mã lực và mô-men xoắn cực đại lên đến 470Nm. Tuy vẫn chưa bằng một vài đối thủ cạnh tranh như Ranger Wildtrak và Hilux Adventure, nhưng những con số này vẫn hứa hẹn sẽ giúp Triton 2024 gia tăng khả năng cạnh tranh trong phân khúc.Ở 2 bản thấp hơn, Triton 2024 sẽ sử dụng động cơ 2.4L thường, sản sinh 184 mã lực và 430Nm mô-men xoắn. Thay vì dùng mâm hợp kim 17 inch, bản GLX sẽ sử dụng mâm 16 inch và không có tùy chọn màu cam đặc trưng. Đáng chú ý, Mitsubishi Triton 2024 sẽ không có phiên bản số sàn (MT), mà chỉ có phiên bản số tự động (AT).

Nâng Cấp Về Khung Gầm

Mẫu bán tải mới này sẽ được trang bị khung gầm mới, với chiều dài cơ sở tăng từ 3.000mm lên 3.130mm. Khoảng sáng gầm cũng được nâng từ 220mm lên 222mm, đem lại cảm giác vận hành ổn định hơn, đặc biệt khi di chuyển trên địa hình khó.

Thiết Kế và Trang Bị Nội Ngoại Thất

Về ngoại thất, Mitsubishi Triton 2024 sẽ được trang bị đèn LED trước/sau, mâm hợp kim 18 inch ở bản cao cấp Athlete. Bên trong, xe sở hữu màn hình đa thông tin 7 inch sau vô-lăng, màn hình giải trí 10 inch có kết nối Apple CarPlay/Android Auto, ghế lái chỉnh điện 8 hướng và tính năng sạc điện thoại không dây.Đáng tiếc, mặc dù trang bị công nghệ khá hiện đại, Triton 2024 vẫn sử dụng phanh cơ truyền thống, chưa phải là loại phanh điện tử như một số đối thủ. Tuy nhiên, xe sẽ được bổ sung các tính năng an toàn như cảnh báo điểm mù, cảnh báo làn đường, ga tự động thích ứng có Stop & Go, camera 360 độ và đèn tự động thích ứng. Mặc dù chưa bằng các mẫu xe như Ranger và Hilux, nhưng những tính năng này vẫn hứa hẹn sẽ giúp Triton cải thiện được doanh số trong thời gian tới.

Giá Bán Và Thời Điểm Ra Mắt

Theo thông tin từ các đại lý, giá bán của Mitsubishi Triton 2024 có thể sẽ tăng nhẹ so với phiên bản hiện hành, nằm trong khoảng 650 - 905 triệu đồng. Mẫu xe này sẽ được nhập khẩu nguyên chiếc từ Thái Lan và dự kiến sẽ chính thức ra mắt thị trường Việt Nam vào ngày 11/9 tới đây.Với những cải tiến đáng chú ý về động cơ, khung gầm, công nghệ an toàn và trang bị tiện nghi, Mitsubishi Triton 2024 hứa hẹn sẽ là một sự lột xác ấn tượng, giúp mẫu bán tải này tạo nên cuộc cách mạng trong phân khúc và quay trở lại vị trí dẫn đầu.
ไม่มีพลิกโผ “ศุกรีย์” นั่งเก้าอี้นายกสมาคมกีฬาเพาะกายสมัย 3
2024-08-17

ก้าวสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน: ยุคใหม่ของกีฬาเพาะกายและฟิตเนสในไทย

ในการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2567 ของสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล ได้รับความไว้วางใจให้เป็นนายกสมาคมฯ เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน โดยมีวิสัยทัศน์และแนวทางการบริหารงานที่จะผลักดันให้กีฬาเพาะกายเป็นกีฬามวลชนทั่วทุกช่วงวัย และมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

กลยุทธ์สร้างความยั่งยืน สู่การเติบโตอย่างมั่นคงของกีฬาเพาะกายในไทย

ยกระดับเพาะกายสู่กีฬามวลชน

นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล มีแนวคิดในการบริหารงานสมาคมฯ ในสมัยที่ 3 โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับกีฬาเพาะกายให้เป็นกีฬามวลชน ให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยสามารถเข้าถึงและเล่นกีฬาเพาะกายได้ เพื่อส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังจะขยายฐานผู้เล่นกีฬาเพาะกายให้ครอบคลุมทุกระดับอายุ โดยเน้นเป้าหมายเฉพาะไปที่กลุ่มผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มที่สามารถเข้าถึงกีฬาเพาะกายได้มากขึ้น

สนับสนุนกีฬาเพาะกายปลอดจากสารต้องห้าม

ภายใต้วาระการบริหารงานสมัยที่ 3 ของนายศุกรีย์ สุภาวรีกุล สมาคมฯ มีเป้าหมายที่จะให้กีฬาเพาะกายเป็นกีฬาที่ปลอดจากสารต้องห้าม ซึ่งเป็นนโยบายหลักของสหพันธ์เพาะกายแห่งเอเชีย และสหพันธ์เพาะกายโลก โดยสมาคมฯ จะมีการรณรงค์และดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวด เพื่อให้นักกีฬาเพาะกายทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการแข่งขันที่สะอาดและเป็นไปตามหลักการของสหพันธ์ระดับโลก

พัฒนาบุคลากรให้เป็นมืออาชีพ

นอกจากการสร้างฐานผู้เล่นกีฬาเพาะกายที่กว้างขวางและการรณรงค์ให้ปลอดจากสารต้องห้าม สมาคมฯ ภายใต้การนำของนายศุกรีย์ สุภาวรีกุล ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรของกีฬาเพาะกายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว ทั้งในส่วนของนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง โดยมุ่งหวังให้กีฬาเพาะกายสามารถเป็นอาชีพที่มั่นคงและมีโอกาสก้าวหน้าได้ในอนาคต

ขับเคลื่อนความสำเร็จสู่ระดับโลก

จากความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ในการบริหารของนายศุกรีย์ สุภาวรีกุล สมาคมฯ วางแผนที่จะผลักดันให้นักกีฬาเพาะกายของไทยมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในระดับเอเชียและระดับโลก โดยจะมุ่งเน้นการพัฒนานักกีฬาและบุคลากรให้มีขีดความสามารถสูง สามารถคว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันระดับนานาชาติได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะยกระดับภาพลักษณ์และความเป็นเลิศของกีฬาเพาะกายไทยในเวทีโลก

สร้างความหลากหลายและความเท่าเทียม

นอกจากการพัฒนาในด้านต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว สมาคมฯ ภายใต้การนำของนายศุกรีย์ สุภาวรีกุล ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความหลากหลายและความเท่าเทียมในกีฬาเพาะกาย โดยเปิดโอกาสให้ผู้แข่งขันจากทุกกลุ่มได้มีส่วนร่วม ทั้งกลุ่มสมาชิก LGBTQ+ และกลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อให้กีฬาเพาะกายเป็นกีฬาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและมีส่วนร่วมได้อย่างเท่าเทียมกัน

ขจัดปัญหารางวัลนักกีฬาค้างจ่าย

นอกเหนือจากวิสัยทัศน์และแนวทางการพัฒนาที่ครอบคลุมหลากหลายมิติแล้ว นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล ยังได้กล่าวถึงประเด็นปัญหารางวัลนักกีฬาเพาะกายที่ค้างจ่ายจากการแข่งขันระดับโลกและเอเชีย ซึ่งจะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางแก้ไขและจ่ายเงินรางวัลให้แก่นักกีฬาโดยเร็วที่สุด เป็นการส่งเสริมและขวัญกำลังใจให้กับนักกีฬาที่ทุ่มเทและประสบความสำเร็จในเวทีระดับนานาชาติ
See More
ใช้ ‘HIA’ แก้ปัญหาท้องถิ่น ‘กรมอนามัย’ ขยายผลสู่ ‘เมืองสุขภาพดี’ 1,000 แห่ง ในปี 2570
2024-08-15

ภาคีเครือข่ายผนึกกำลังขับเคลื่อนเมืองสุขภาพดี ด้วย 'HIA'

เวทีวิชาการ HIA FORUM ประจำปี 2567 สะท้อนถึงความสำเร็จของการประยุกต์ใช้ HIA (Health Impact Assessment) ในการแก้ปัญหาระดับท้องถิ่น โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานระดับชาติและสถาบันการศึกษา ที่มุ่งสร้างเมืองสุขภาพดีให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

ร่วมก้าวสู่เมืองสุขภาพดีที่ยั่งยืน

ความท้าทายในการพัฒนาเมืองสุขภาพดีด้วย HIA

แม้ว่า HIA จะเป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพในการส่งเสริมการพัฒนาเมืองที่เอื้อต่อสุขภาพ แต่ก็ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารให้ อปท. เข้าใจกระบวนการ HIA ได้อย่างง่ายดาย หรือการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้บริหารท้องถิ่นให้เห็นความสำคัญของการใช้ HIA ในการตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังต้องพัฒนาศักยภาพทีมวิชาการให้สามารถถ่ายทอดความรู้และเครื่องมือ HIA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ อปท. สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในพื้นที่

การขับเคลื่อนเมืองสุขภาพดี ด้วย HIA ในภูมิภาค

จากการสะท้อนประสบการณ์การนำ HIA ไปปรับใช้ในพื้นที่ เทศบาลนครยะลา ได้เห็นถึงความสำคัญของการใช้ HIA ในการจัดการปัญหาด้านความมั่นคงทางอาหาร โดยเริ่มต้นจากการวิเคราะห์สถานการณ์และบริบทของพื้นที่ จนกำหนดเป็นแผนการดำเนินงานที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ อีกทั้ง การนำ HIA มาประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวโดยชุมชนของ เทศบาลตำบลศรีบัวบาน จ.ลำพูน ก็สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่กำลังเข้ามาในชุมชน โดยมีการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

บทบาทของภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อน HIA

สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) และ HIA Consortium จากสถาบันการศึกษาในภูมิภาคต่างๆ มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการใช้ HIA ในระดับท้องถิ่น โดยมุ่งเน้น 3 ภารกิจหลัก ได้แก่ 1) การพัฒนากำลังคน เช่น การบรรจุหลักสูตร HIA ในสถาบันการศึกษา และการสร้างกลไกพี่เลี้ยง HIA ในพื้นที่ 2) การพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม ในการสร้างเครื่องมือและแนวทางการใช้ HIA ที่เข้าใจง่าย และ 3) การให้บริการวิชาการและการขับเคลื่อนชุมชน ท้องถิ่น ด้วย HIA โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทบาทของทีมวิชาการที่ลงไปดำเนินการในพื้นที่ จะต้องเน้นการสื่อสารและการวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริหารท้องถิ่นให้เข้าใจก่อน จึงจะสามารถนำเสนอแนวทางการใช้ HIA ที่เหมาะสม และสร้างความร่วมมือที่ราบรื่น นอกจากนี้ ทีมวิชาการควรให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้าใจและความรู้สึกที่ดีต่อกระบวนการ HIA ให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ด้วย

การสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อเร่งสร้างเมืองสุขภาพดี

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้เล็งเห็นประโยชน์ของการใช้ HIA ในการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมของ อปท. หรือที่เรียกว่า EHA 8000 โดยมุ่งหวังให้ อปท. สามารถนำกระบวนการ HIA ไปประยุกต์ใช้ในการตัดสินใจและกำหนดมาตรการด้านสุขอนามัยสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ นอกจากนี้ กรมอนามัย ยังได้ขับเคลื่อนวาระสำคัญในการพัฒนาเมืองสุขภาพดี (Healthy Cities) โดยตั้งเป้าหมายให้มีเมืองสุขภาพดีไม่น้อยกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2570 โดยจะใช้กลไก HIA เป็นเครื่องมือสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาเมืองสุขภาพดี โดยเริ่มจากการพัฒนาศักยภาพของศูนย์อนามัยและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ให้เป็นทีมพี่เลี้ยงให้กับ อปท. ที่สนใจเข้าร่วมโครงการการผนึกกำลังของภาคีเครือข่ายที่หลากหลาย ทั้งสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และ อปท. ที่มีความมุ่งมั่นในการนำ HIA มาขับเคลื่อน เพื่อพัฒนาเมืองสุขภาพดีที่ยั่งยืน จะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยเสริมพลังให้การดำเนินการในทุกระดับเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประชาชนในทุกพื้นที่ได้รับประโยชน์จากการมีเมืองที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีในที่สุด
See More